วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2557

แผนที่อุตสาหกรรมยางพาราไทย

ตอนที่ 1 ก้าวย่างของยางไทย

ในโลกใบนี้มีสรรพสิ่งเกิดขึ้นอยู่มากมาย หากจะเลือกสนใจเรื่องบางเรื่องก็จะทำให้เราเข้าใจสิ่งเหล่านั้นและเห็นภาพต่างๆได้อย่างชัดเจน เรื่องราวของยางธรรมชาติเป็นเรื่องที่เล็กมากๆ ในโลกใบนี้แต่กลับเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะเกษตรกรชาวสวนยางของประเทศไทย  สภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบันบนโลกใบนี้เกี่ยวกับสถานการณ์ยางธรรมชาติ โดยเฉพาะยางพาราซึ่งในที่นี้ถือว่าเป็นตัวหลักของเรื่องนี้ ภาคอุปทาน ยางพาราของโลกในปัจจุบัน ปี ค.ศ. 2014   ผลผลิตยางพาราที่ผลิตได้จากแหล่งปลูกยางพาราทั่วโลกรวมกันได้ 12.257 ล้านตัน  ในจำนวนนี้ประเทศไทยที่มีสวนยางพารากระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ผลิตยางได้ 4.2 ล้านตัน ซึ่งเทียบส่วนแล้วจัดว่าเป็นประเทศผู้ผลิตยางได้เป็นอันดับ 1 ของโลก รองลงไปก็เป็นประเทศอินโดนีเซียตามลำดับ แนวโน้มปริมาณการผลิตยางพาราของโลกมีปริมาณค่อยๆเพิ่มขึ้นทุกปี  ภาคอุปสงค์ ยางพาราของโลกในปีเดียวกันก็มีปริมาณความต้องการใช้ยางพาราในการผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน  ยางพาราในส่วนของประเทศไทยที่ผลิตได้ทั้งหมดเรามีความสามารถนำมาแปรรูปผลิตเป็นสินค้าอุตสาหกรรมที่ใช้ในประเทศและส่งออกได้เพียงร้อยละ 13 หรือคิดเป็นปริมาณยางได้ 4.6 แสนตัน ผลผลิตยางส่วนทีอยู่นอกการแปรรูปของเราถูกจำหน่ายให้ภาคอุปสงค์นอกประเทศไปในหลายๆ ประเทศทั้งในแถบยุโรป อเมริกา ฯลฯ  และคู่ค้าที่เป็นลูกค้ารายใหญ่ของไทยที่มีความต้องการใช้ยางพารามากและซื้อยางพาราของไทยนำไปผลิตสินค้าคือประเทศจีน ในมณฑลซานตงซึ่งมีเมืองชิงเต่าเป็นเมืองเอกด้านอุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์ยาง และเมืองกว่างเหยาก็เป็นเมืองคู่ขนานของเมืองชิงเต่าที่ใช้ยางพาราเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าผลิภัณฑ์ยาพารา โดยเฉพาะการผลิตยางล้อรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 1 ของประเทศจีน ผลิตได้กว่าปีละ 150 ล้านเส้น มูลค่ากว่า 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ใช้ยางพาราไปในกระบวนการผลิตรวม 1 ล้านตันและประมาณครึ่งหนึ่งของยางพาราที่ใช้ได้ซื้อจากประเทศไทย อย่างไรก็ตามการขายยางพาราให้ภาคอุปสงค์นอกประเทศสามารถขายออกไปได้จำนวนหนึ่งซึ่งยังมีปริมาณยางพาราคงค้างที่ผลิตได้อยู่ในสะต๊อกจำนวนมากสะสมมาทุกๆ ปี ประกอบกับมีข้อมูลปริมาณยางเพิ่มขึ้นเป็นผลจากนโยบายของประเทศจีนที่ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้รับสัมปทานพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ 99 ปี แถบทิศเหนือของประเทศลาวเพื่อปลูกยางพาราป้อนอุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยางของประเทศจีน ข้อมูลตรงนี้ทำให้เราเห็นว่าแนวโน้มต่อจากนี้ไปทั้งปริมาณยางของโลกและราคายางจะไม่มีทางสูงขึ้นอย่างแน่นอนด้วยปัจจัยภาคอุปทานเติบโตมากกว่าภาคอุปสงค์ เกษตรกรชาวสวนยางของไทยคงเห็นอนาคตแล้วของตนเองแล้วว่าจะมีทิศทางขาลง  ความจริงที่ผ่านมาจะเห็นปรากฏการที่พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางออกมาเรียกร้อยให้ภาครัฐช่วยเหลือ หรือให้ช่วยพยุงราคายางพาราให้ จะเห็นได้ทุกปีจนคุ้นชินแล้ว
ปัจจุบันในรัฐบาลยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช. )  เรื่องราคายางพาราตกต่ำ ก็เป็นเรื่องที่มีความสำคัญรัฐบาลถือให้เป็นวาระแห่งชาติ เพราะเกษตรกรชาวสวนยางมีความเดือดร้อนมาก ราคาที่ขายได้ต่ำมาก ราคาลงลึกถึงประมาณ 3 กิโลกรัม 100 บาท ไม่คุ้มกับต้นทุนการผลิต เกษตรกรชาวสวนยางจึงออกมาเรียกร้อยให้รัฐบาลรับซื้อหรือประกันราคาให้ 60 บาท/กิโลกรัม ในขณะที่ราคาน้ำยางสด ณ. เวลาปัจจุบัน ราคาตลาดโลกอยู่ที่กิโลกรัมละ 43 บาท ก็อ่านความได้ว่า รัฐบาลคงไม่อาจสนองตอบต่อข้อเรียกร้องนี้ได้ ภายใต้การนำรัฐบาลจาก คสช. ได้ระดมความคิดเห็นจากหลายๆ ภาคส่วนเพื่อแก้ปัญหาอุตสาหกรรมยางทั้งระบบจนเป็นข้อสรุป 4 แนวทาง คือ 1.เร่งรัดการใช้ยางภายในประเทศให้มากขึ้น โดยนำยางมาใช้สร้างถนน ทำอิฐบล็อก ทำพื้น ฝาย หรือผลิตภัณฑ์แปรรูป เป็นต้น พร้อมทั้งเร่งการโค่นต้นยางเก่าเพื่อลดอุปทานภายในประเทศ ทำให้ลดผลผลิตยาวในอนาคต 2.ผลักดันและเร่งรัดโครงการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ให้สถาบันเกษตรกรรับซื้อยางจากเกษตรกรในราคาที่สูงขึ้น และการปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการ นำเงินเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อใช้ในการแปรรูปยาง อีกทั้ง สนับสนุนให้มีการปล่อยเงินกู้ให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เพื่อเข้าถึงเกษตรกรมากขึ้น 3.สร้างตลาดการซื้อขายยางธรรมชาติ โดยเชื่อมโยงให้มีการทำสัญญาซื้อขายและส่งมอบสินค้าจริงระหว่างเกษตรกรชาวสวนยางกับผู้ซื้อ และ 4.ร่วมมือกับต่างประเทศ เพื่อกำหนดแนวทางจัดการเก็บสต็อกยางร่วมกัน  
เรียบเรียง : สิทธิชนคน กสอ.

วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

งาน Shandong (China)-Thailand Investment Promotion and Matchmaking Forum

สรุปเนื้อหางาน Shandong (China)-Thailand Investment Promotion and Matchmaking Forum  25 November 2014  ณ  MSC Hall, Ramada Plaza Bangkok Menam Riverside Hotel ในครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 4  โดยสมาคมการค้าและการลงทุนเอเซียน-สากลและสำนักงานคณะกรรมการการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงาน CPPCC. Shandong Provincial Committee, CCPIT  Shandong Sub-council และ CCPIT Zibo Committee  นำคณะนักธุรกิจจากมณฑลซานตง    กว่า 50 คน จากอุตสาหกรรม สาขายางรถยนต์และผลิตภัณฑ์ยาง เซรามิก และกระเบื้อง เครื่องจักรกล ผักและผลไม้ เข้าร่วมงานครั้งนี้ซึ่งมีนักธุรกิจไทยและผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมงานกว่า 200 คน โดยงานแบ่งออกเป็น 2 ส่วน
ส่วนที่ 1 เป็นการกล่าวสุนทรพจน์ โดย MR. Chen Guang  รองประธานสมาคมการค้ามณฑลซานตง  เพื่อให้ข้อมูลในการแสวงหาความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนระหว่าง สมาคมการค้าการลงทุนเอเซียน-สากล (ไทย) และสมาคมการค้ามณฑลซานตง (จีน) โดยรวมแล้วเป็นการให้ข้อมูลการค้าการลงทุนในสาขาอุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยาง ทั้งนี้ MR. Chen Guang  ผู้แทนสมาคมการค้ามณฑลซานตง ได้ให้ข้อมูลว่า มณฑลซาตง มีประชากรกว่า 97 ล้านคน  GDP โตขึ้น 8.82% มูลค่าสูงถึง 91 แสนล้านสหรัฐ ซึ่งมี เมืองชิงเต่า  เป็นเมืองเอกด้านอุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์จากยาง และเมืองกว่างเหยา เป็นเมืองเอกด้านการผลิตยางล้อรถยนต์ ปีละ 150 ล้านเส้น มูลค่ากว่า 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ  MR. Chen Guang  ได้แนะนำให้นักธุรกิจเข้าไปทำการค้าการลงทุนในประเทศไทยเนื่องจาก นักธุรกิจจีนมีความพร้อมทางด้านเงินทุน มีเทคโนโลยีและมีประสบการในการบริหาร ส่วนประเทศไทยมีข้อดีและความได้เปรียบหลายอย่าง เช่นแหล่งทำเลเป็นศูนย์กลางในอาเซียน  ไทยมีการตลาดและกลไกการประสานงานที่ดี  ด้านทรัพยากรมีความได้เปรียบทางการแปรรูป เช่นยางพารา ข้าวโพด มันสำปะหลัง และไทยเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมดี เปิดกว้างไม่กีดกันคนอื่น และมีอารยธรรมมนุษย์ดี อีกทั้งจะได้รับการส่งเสริมและใช้สิทธิพิเศษต่างๆ และยอมรับว่าจะส่งเสริมผลักดันให้เพิ่มการลงทุนการค้าให้มากยิ่งขึ้น ตัวอย่างนักธุรกิจที่เข้ามาลงทุนผลิตยางล้อรถในไทยได้จัดตั้ง บริษัท หลิงหลงคาย จำกัด  นักธุรกิจที่จะเข้ามาลงทุนต้องเข้ามาอย่างถูกทาง ถูกต้องด้วย
MR. Xiam Jing Liang  ประธานสมาคมการค้าการลงทุนเมือง กว่างเหยา ซึ่งเป็นเมืองด้านอุตสาหกรรมการผลิตที่ใช้ยางพาราผลิตล้อยาง อันดับ 1 ของประทศจีน ได้กล่าวเชิญชวนนักธุรกิจจีนและให้คำมั่น 3 ข้อในการจะผลักดันให้เกิดความร่วมมือทางการค้าการลงทุนกับไทยให้มากยิ่งขึ้น
-จะผลักดันให้นักธุรกิจในนิคมอุตสาหกรรมยางพาราของเมือง กว่างเหยา โดยคัดเลือกมาอย่างน้อย 8 ธุรกิจจะส่งเสริมให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย เช่นเดียวกับ 25 ธุรกิจที่ไปลงทุนในประเทศ ลาว  มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย
-จะผลัดดันให้ซื้อยางพาราจากประเทศไทยให้มากขึ้น เนื่องจากปริมาณการใช้ยางพาราของเมืองกว่างเหยาใช้อยู่ประมาณ 1 ล้านตัน และในจำนวนนั้นมีครึ่งหนึ่งนำเข้าจากประเทศไทย
-ขอเชิญชวนให้นักธุรกิจไทยเข้าร่วมงาน Expo ช่วงเดือน พฤษภาคม 2558 ด้วย
ในส่วนของสมาคมการค้าและการลงทุนเอเซียน-สากล  โดยสำนักงานคณะกรรมการการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้ให้ข้อมูลเนื้อหาดังนี้
 -นางอัชรีน  พณพงษ์ชัย รองเลขาฯ BOI ได้ให้ข้อมูลสำหรับการส่งเสริมว่า ประเทศไทยมีการจัดโซนอุตสาหกรรม 3 โซน คือ โซนกรุงเทพฯ ปริมณฑล  โซนจังหวัดในภาคเหนือ-ตะวันออก-ใต้ และโซนจังหวัดติดชายแดนเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ยังมีสำนักงาน BOI ในประเทศจีนอีก 3 แห่ง อยู่ที่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ และกวางโจว  หากต้องการขอรับคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่ 3 สาขาโดยตรง   สำหรับนโยบายส่งเสริมการลงทุนใหม่จะเน้นไปที่เพิ่มมูลค่าการลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีเทคโนโลยีสูง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยการส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทยจะส่งเสริมครอบคลุมหลายด้าน อาทิเช่น ด้านการเงิน ลงทุนได้อย่างอิสระ  การถือคลองที่ดิน สำหรับธุรกิจที่ได้รับการส่งเสริมจาก BOI ถือครองได้ไม่จำกัดเวลา เมื่อย้ายฐานการผลิตหรือเลิกธุรกิจต้องขายหรือเปลี่ยนผู้ถือครองใหม่   การนำเข้า-ส่งออก ไม่จำกัดและไม่กำหนดอัตราส่วนวัตถุดิบท้องถิ่นที่ใช้สิทธิพิเศษ ด้านภาษีรายได้เป็นร้อยละ 0 (ภาษีรายได้เป็นศูนย์) ใน 8 ปีแรก และจ่ายภาษีรายได้ครึ่งหนึ่งใน 5 ปี หลังจาก 8 ปีแรก
-ผู้แทนจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (Industrial Estate Authority of Thailand : IEAT) ได้ให้ข้อมูลกับนักธุรกิจว่าประเทศไทยมีนิคมอุตสาหกรรมที่จัดตั้งขึ้นโดยรัฐและภาคเอกชนรวมกันมีอยู่ 56 แห่ง กระจายอยู่ตามโซนต่างๆ เนื่องจากการผลิตยางพาราของไทย ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 ไทยมีการผลิตยางพาราเพิ่มขึ้นทุกปี ถึงปีปัจจุบัน ค.ศ. 2014  คาดว่าผลผลิตยางพาราของโลกจะอยู่ที่ 12.257 ล้านตัน และประเทศไทยผลิตได้ 4.2 ล้านตัน ซึ่งถือว่าผลิตเป็นที่ 1 ของโลก และเร็วๆ นี้จะจัดตั้ง Rubber City บนเนื้อที่ 1.22 ล้านตารางเมตร ที่จังหวัดสงขลา ซึ่งห่างจากชายแดนมาเลเซียใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่งโมง ภายในนิคมมีบริษัทที่ผลิตวัสดุก่อสร้างจากยาง และบริษัท มิชลิน จำกัด ผู้ผลิตล้อรถยนต์รายใหญ่รายหนึ่งในประเทศไทย เป็นต้น  และภายในปี ค.ศ. 2017 จะมีศูนย์วิจัย ศูนย์พัฒนาผลิตภัณฑ์ อยู่ใน Rubber City และสามารถให้บริการสำหรับธุรกิจอุตสาหกรรมยางขั้นกลาง และขั้นปลาย  ทั้งนี้นิคมอุตสาหกรรมยางจะได้รับการให้สิทธิพิเศษ ด้านการนำเข้า-ส่งออก เครื่องจักร  การถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดิน  การทำธุรกรรมการเงิน  คนและแรงงานเป็นกรณีพิเศษเพื่อส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ภาคใต้
ส่วนที่ 2 เป็นกิจกรรมเปิดโต๊ะเพื่อสร้างบรรยากาศความร่วมมือทางการค้า การลงทุน แสวงหาคู่การค้า หุ้นส่วนการการ และพันธมิตร ระหว่างนักธุรกิจจีน –ไทย มีโต๊ะนักธุรกิจเข้าร่วมฝ่ายไทย 60 รายและฝ่ายจีน 50 ราย

ข้อเสนอแนะ เพื่อสร้างบรรยากาศความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนระหว่าง สมาคมการค้าการลงทุน  เอเซียน-สากล (ไทย) และสมาคมการค้ามณฑลซานตง (จีน) โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยาง เห็นสมควรที่จะผลักดันให้ สย.กพข. 2 กสอ. จัดพาผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยางพาราเข้าร่วมงาน Expo ในครั้งต่อไป

วันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2557

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเฟ้น 6 มาตรการช่วยอุตสาหกรรมยางพารา

    มาตรการหลักที่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) จะเร่งดำเนินการในปีงบประมาณ 2557-2558 ประกอบด้วย
1.       การถ่ายทอดองค์ความรู้ผ่านกระบวนการปรึกษาแนะนำเชิงลึกและการฝึกอบรมให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมยางพาราในด้านต่างๆ เช่น การออกแบบ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางพารา  การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี และมาตรฐานยางพาราไทยและสากล
2.       การพัฒนาและการออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมยางพาราต้นแบบที่ตรงต่อความต้องการของตลาดที่มีความต้องการเฉพาะ (Segmentation)
3.       การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการผลิต (การพัฒนาการใช้สารเคมีและการพัฒนาคุณสมบัติของยางพารา เช่น ยางแผ่นดิบ  ยางแผ่นรมควัน  น้ำยางข้น) ให้มีความแตกต่าง
4.       การตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์ยางพาราที่ได้รับการพัฒนาให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลต่างๆ
5.       การถ่ายทอดองค์ความรู้ด้นเทคโนโลยีและมาตรฐานผลิตภัณฑ์ในประเทศและต่างประเทศ

6.       การสร้างตลาดและช่องทางการจัดจำหน่ายให้สินค้ายางพาราและไม้ยางพารา  โดยการออกงานนิทรรศการและแสดงสินค้าในประเทศและต่างประเทศโดยเฉพาะ (ตลาดโลกมุสลิม Rubber for Halal)

วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2557

การพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราไทย

วงสัมมนาชี้เป้า  เสนอภาครัฐปฏิรูปการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราไทย
              ในวงสัมมนาแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราไทย  ที่ส่วนพัฒนาอุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยาง กองพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา 2 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมกับคณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดลจัดขึ้นในวันที่ 21 สิงหาคม 2557 ซื่งในวงเสวนาประกอบด้วยนักวิชาการและผู้อำนวยการโครงการวิจัยแห่งชาติ : ยางพารา  ตัวแทนผู้ประกอบธุรกิจภาคเอกชนที่ผลิตผลิตภัณฑ์จากยางพาราเพื่อสุขภาพ   นายกสมาคมถุงมือยาง  และภาคราชการมีผู้แทนจากสำนักเศรษฐกิจอุตสาหกรรม  ผู้แทนจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยมีผู้แทนจากคณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นผู้ดำเนินรายการ  ในวงสัมมนาได้ชี้ประเด็นตั้งข้อสังเกตไว้ว่าอุตสาหกรรมยางพาราไทยที่ไม่ก้าวไปถึงไหน มีการผลิตน้ำยางดิบในปี 2556  ทั้งหมด 3.6 ล้านตัน และใช้ยางพาราเป็นวัตถุดิบผลิตสินค้าหรือผลิตภัฑ์ 5.6 แสนตันหรือประมาณเพียงแค่ 14% ของปริมาณการผลิตทั้งหมดเท่านั้น ส่วนที่เหลือจำหน่ายในรูปเป็นวัตถุดิบทำให้ขายไม่ได้ราคาหรือราคาต่ำ  อีกทั้งมีคู่แข่งประเทศเพื่อนบ้านที่มีประเทศจีนได้สัมปทานผลิตป้อนเข้าตลาดมากขึ้นจึงมีแนวโน้มราคาจะต่ำลงเรื่อยๆ  ที่ผ่านมานโยบายจากภาครัฐที่เข้าไปช่วยประกันราคาหรือการใช้เงินอุดหนุนปัจจัยการผลิตจึงเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพาราโดยตรงเฉพาะหน้าในระยะสั้นและไม่อาจแก้ไขปัญหาด้านราคาและการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราได้อย่างยั่งยืนซึ่งเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่สิ้นสุดเมื่อใดที่ราคายางพาราตกต่ำ  ในวงเสวนาได้ตั้งข้อสังเกตเอาไว้หากจะพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราให้เติบโตเข้มแข็งอย่างมีคุณภาพจำเป็นต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่เชิงนโยบายในสองประเด็นหลักที่สำคัญคือ     
             ประเด็นแรกที่สำคัญอย่างมากคือจะต้องมีนโยบายเพิ่มจำนวนการใช้ผลิตภัณฑ์ยางในประเทศให้มากขึ้นด้วยวิธีการสร้างตลาดการใช้ผลิตภัณฑ์ยางของไทย  ประเด็นนี้ภาครัฐต้องมีมาตรการในการกำหนดให้หน่วยงานภาครัฐใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยางพาราให้มากที่สุด เช่นให้ทุกหน่วยงานของรัฐและโรงพยาบาลรัฐต้องใช้ยางพาราเป็นวัสดุประกอบที่ใช้หรือป้องกันการกระแทก   วัสดุและอุปกรณ์อื่นๆ ในทางการแพทย์ที่ทำจากยางพาราเป็นหลัก หรือกำหนดให้องค์การบริหารตำบลและจังหวัดใช้อุปกรณ์การกีฬาหรืออุปกรณ์เพื่อสุขภาพหรือลานกีฬาหรืออุปกรณ์การก่อสร้างและคมนาคมที่ใช้ยางพาราเป็นวัสดุประกอบให้มากขึ้นซึ่งการกำหนดมาตรการนี้เป็นการสร้างตลาดให้ปริมาณการใช้ยางพาราเพิ่มขึ้น  เมื่อมีความต้องการใช้มากขึ้นผู้ประกอบการก็จะเพื่มการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ใช้ยางพาราเป็นวัตถุดิบมากยิ่งขึ้น  การผลักดันมาตรการนี้เป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราให้ยกระดับความสามารถภาคอุตสาหกรรมมากยิ่งขึ้น   
         ประเด็นที่สอง ที่ตั้งข้อสังเกตไว้คือ การจัดตั้งกองทุนพัฒนาอุตสาหกรรม  แนวคิดเป็นการให้ภาคอุตสาหกรรมเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายขึ้น โดยรัฐจ่ายเงินดอกเบี้ยต่ำเพื่อให้กู้ยืมเข้ากองทุนส่วนหนึ่งและเก็บค่าธรรมเนียมจากภาคอุตสาหกรรมส่วนหนึ่ง  เม็ดเงินจากกองทุนนี้จะช่วยผลักดันให้สถานประกอบการอุตสาหกรรมสามารถขยายและพัฒนากระบวนการผลิต เทคโนโลยีการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นสามารถแข่งขันได้ ส่งผลทางอ้อมต่อเกษตรกรชาวสวนยาง ทำให้วัตถุดิบยางพารามีเสถียรภาพราคาสูงขึ้นในระยะยาวได้   ส่วนการบริหารกองทุนต้องสร้างกฏระเบียบรองรับและเอื้อต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราไทย                          การสัมมนายังได้สะท้อนภาพขีดวงจำกัดลงมาในระดับปฏิบัติการ   ในส่วนพัฒนาอุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์่ยาง กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมจะเป็นหน่วยงานที่อยู่ในระบบการส่งเสริม สนับสนุนและพัฒนาอุตสาหกรรม ทำตัวเป็น  Promoter  จับคู่ระหว่างผลงานวิจัยที่เกี่ยวกับยางและเจ้าของผลงานกับผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมให้ได้มาพบกันและทำงานด้วยกันเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมยางให้เติบโตยิ่งขึ้นและในขณะเดียวกันก็นยังมีอีกภารกิจหนึ่ง  วางตัวเป็น sale  engineering เพื่อให้การแนะนำส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมในสองมิติ คือการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ยาง และเพิ่มปริมาณการใช้ยางในผลิตภัณฑ์ ด้วยการประสานงานเชื่อมโยงให้นักวิจัยและเจ้าของผลงานจับคู่กับผู้ประกอบการที่สนใจพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยทางส่วนงานภาครัฐสนับสนุนปัจจัยการพัฒนาผลิตภัณฑ์บางส่วน  ในเบื้องต้นนี้จะนำร่องด้วยการสนับสนุนการเพิ่มมูลค่ายางในวัสดุอุปกรณ์ทางการแพท์ที่มีความเสี่ยงสูง  1 ผลิตกภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงปานกลางเพื่อสุขภาพและกีฬา 1 ผลิตภัณฑ์และส่งเสริมการเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ก่อสร้าง หรือคมนาคม อีก 1 ผลิตภัณฑ์
           จากข้อเสนอเชิงนโยบายสองประเด็นที่ได้จากวงสัมมนา เป็นข้อเสนอที่คาดหวังเล็งเห็นผลได้ อุตสาหกรรมยางพาราไทยจะยกกระดับการพัฒนาให้สูงขึ้นได้ อยู่บนเงื่อนไขที่ว่า  ผู้นำประเทศมีความกล้าหาญเพียงพอที่จะฟันธงให้ข้อเสนอข้างต้นใช้เป็นแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราหรือไม่

ข้อมูลเพิ่มเติม

วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2557

สัมมนา แนวทางการเพิ่มมูลค่าของอุตสาหกรรมยางพาราในประเทศไทย


วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ยางผสมสำเร็จ เป็นกุญแจดอกสำคัญในการไขประตูสู่อุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยาง การส่งเสริมและสนับสนุนจึงเป็นฐานการเพิ่มปริมาณการใช้ยางและมูลค่ายางพาราของไทยให้มากขึ้น

วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

การพัฒนาอาหารเจ ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีเห็ดและผักเป็นส่วนประกอบหลัก

วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่จากเศษมะพร้าวอบ-ทอด ที่แตกหัก

วันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

กำกับติดตามการให้คำปรึกษา 1

สย.กพข. 2 กสอ. ได้ออกติดตามการดำเนินงานของที่ปรึกษาโครงการพัฒนาสถานประกอบการเป้าหมายเพื่อเข้าสู่ AEC

วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

คณะกรรมการตรวจรับการจ้างได้ออกตรวจติดตามการดำเนินงานของที่ปรึกษาในโครงการพัฒนาสถานประกอบการเป้าหมายเพื่อเข้าสู่ AEC


วันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

กิจกรรม 5 ส. บริษัทโชคอนันต์ อินดัสทรี จำกัด

ภาพบันทึกการทำงานคณะกรรมการกำกับติดตามการจ้างที่ปรึกษา ของส่วนพัฒนาอุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยาง กองพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา 2 ได้ติตามการดำเนินงานของที่ปรึกษาโครงการพัฒนาสถานประกอบการเป้าหมายเพื่อเข้าสู่ AEC โดยวันนี้ (9 พ.ค.57) ไปที่ บริษัท โชคอนันต์ อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตรองเท้ายาง ที่อยู่เลขที่ 9 ซอยเทียนทะเล 22 แยก 4 ถ.บางขุนเทียน-ชายทะเล แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ 10150 สถานประกอบการนี้เข้าร่วมกิจกรรมรับคำปรึกษาแนะนำเรื่องการจัดทำ กิจกรรม 5 ส. เพื่อจัดระเบียบในกระบวนการผลิตทั้งการจัดเก็บวัสดุและผลิตภัณฑ์ ให้อยู่ในกระบวนการ สะสาง สะอาด สะดวก สุขลักษณะ และสร้างนิสัย ที่ปรึกษาได้เข้าไปอบรมให้ความรู้สร้างความเข้าใจและจัดทำ Dummy เพื่อเป็นแนวทางการทำงานต่อไป

วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

การจัดทำระบบคุณภาพมาตรฐานอาหาร HACCP กล้วยหอม ที่สหกรณ์ท่ายาง

สย.กพข.2 โดยคณะกรรมการตรวจรับการจ้าง ได้ติดตามการดำเนินงานในสถานประกอบการของผู้เข้าร่วมโครงการ สหกรณ์การเกษตรท่ายาง จำกัด เข้าร่วมโครงการฯ เพื่่อพัฒนาการทำระบบคุณภาพความปลอดภัยอาหาร (HACCP) สำหรับกล้วยหอมเพื่อการส่งออก ทีมที่ปรึกษาได้เข้าไปช่วยเป็นพี่เลี้ยงในการจัดทำระบบแล้วเกือบครบตาม Man day ที่โครงการฯ กำหนด (งานมีความก้าวหน้าไปแล้ว 80%) คาดว่าหลังจากโครงการฯ สิ้นสุดและสหกรณ์ขอการรับรองมาตรฐานก็จะได้รับการรับรองในที่สุด